หน้าแรก   
   เกี่ยวกับเรา   
   บริการ   
ข่าวสารน่ารู้
   ผลงานที่ผ่านมา   
   ตารางเทียบสี   
   เทคนิคขั้นตอนการทาสี   
   ติดต่อเรา   
  • งานทาสีน้ำ ภายนอก ภายใน
  • งานทาสีน้ำมัน โครงเหล็ก โลหะทุกชนิด
  • งานสี อีพ๊อกซี่ พื้น และโลหะทุกชนิด
  • งานสีหลังคาทุกชนิด
  • งานทาสีไม้ สีย้อมไม้
  • งานทา และพ่นสีเฟอร์นิเจอร์ ไม้ โละหะ
  • งานทา และพ่นพื้นไม้ เคลือบแข็งยูรีเทน
  • งานขัดพื้นไม้งานลอกสีเก่าพื้นไม้และ
    เฟอร์นิเจอร์ ทำสีใหม่
  • งานทำความสะอาดอาคารสำนักงาน งานกระจก งานผนัง
  • งานซีลอาคารป้องกันน้ำ
  •  
     
    7 บทเรียนจากความผิดพลาดของการเลือกสีทาบ้าน
    1. ดูแค่โทนสีจากแผ่นเทียบสี
     แม้ตอนอยู่ในแผ่นเทียบสีจะดูสวยงาม ก็ไม่ได้หมายความว่า สีเหล่านั้นจะเหมาะกับบ้านของคุณ หรือทำให้บ้านดูสวยงามเสมอไป เพราะพื้นที่ที่จะนำไปตกแต่งมีขนาดใหญ่กว่าแผ่นเทียบมาก ดังนั้นคงจะดีกว่าหากนำสีที่ต้องการกลับไปทดลองทาบลงบนผนังของบ้านตัวเองก่อนตัดสินใจ หรือไม่ก็ลองใช้บริการเทียบสีบ้านแบบ 3 มิติ ที่เริ่มมีให้บริการกันมากขึ้น เผื่อจะเห็นภาพชัดกว่าจินตนาการเอาเอง
     
    2. ลืมสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี
    แม้ที่ร้านค้าจะมีตัวอย่างแผ่นทาสีสำเร็จรูปเอาไว้ให้ดู ก็ไม่ควรรีบตัดสินใจจนกว่าจะนำกลับมาลองตกแต่งที่บ้านของตัวเองก่อน เพื่อจะได้ดูว่า สีเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างในแต่ละช่วงของวัน ทั้งตอนเช้า ตอนกลางวัน และตอนกลางคืน เพราะแสงสามารถทำให้สีเปลี่ยนได้ตลอดเวลา และถ้าหากจะเช็กให้แน่ใจจริง ๆ ก็ควรทิ้งไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก่อนตัดสินใจเลือก

    3. ขาดการวางแผนที่ดี
      มีคนไม่น้อยที่มักจะตัดสินใจเลือกสีทาผนังก่อน แล้วค่อยตัดสินใจเลือกของตกแต่งทีหลัง ผลที่ได้ก็คือ มีหลากหลายโทนสีผสมอยู่ในห้องเดียวกันจนละลานตาไปหมด เพราะขาดการวางแผนที่ดี ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็ควรจะกำหนดธีมและโทนสีขึ้นมาก่อน หรือถ้าจะง่ายกว่านั้นก็เลือกของตกแต่งกับเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกใจเป็นอันดับแรก ต่อจากนั้นค่อยตัดสินใจเลือกสีทาผนังอีกที

    4. ใช้โทนสีที่ดูสว่างเกินไป
    แม้ว่าต้องการทำให้ผนังดูสว่างสดใส ก็ไม่จำเป็นต้องใช้โทนสีที่สว่างจ้าจนเกินไปเพื่อการนี้ แต่ถ้าหากมันเป็นความต้องการของคุณ แนะนำให้เลือกเฉดสีที่เข้มกว่าสีที่ต้องการ หรือนำสีโทนอื่น ๆ มาใช้สลับบ้างดีกว่าตกแต่งบ้านทั้งหลังด้วยสีสว่าง ๆ เช่น สีขาว เพียงสีเดียว

    5. คิดว่าสีเบจ ช่วยสร้างความสมดุลได้
     แม้สีเบจจะเป็นสีกลาง ๆ ที่เข้ากันได้ดีกับทุกสี และดูไม่จืดชืดจนขาดสีสันเหมือนสีขาว แต่อย่างไรก็ตามการนำสีเบจมาใช้ ก็อาจไม่สวยงามอย่างที่คิดหากมีจำนวนมากเกินไป ในกรณีที่ต้องการนำสีกลางมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นสีเบจ หรือสีอื่น ๆ ในแนวควรจะนำมาตกแต่งไม่เกิน 25% ของการตกแต่งทั้งหมด เพราะเป็นจำนวนที่ช่วยให้องค์ประกอบต่าง ๆ ดูสมดุลกันมากกว่า

    6. ติดอยู่กับกฎเดิม ๆ มากเกินไป
      บางครั้งการออกนอกกฎการตกแต่งบ้านเดิม ๆ ก็ส่งผลดีมากกว่าผลเสีย โดยเฉพาะหากเป็นสิ่งที่ต้องการ เช่น หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า ไม่ควรทาสีเข้มในพื้นที่ขนาดเล็กทั้งที่ความจริงแล้วสีเข้ม ๆ เช่น สีชาโคล ก็สามารถทำให้บ้านมีบรรยากาศที่ดูอบอุ่น สบาย น่าสนใจ และเป็นกันเองได้เหมือนกัน

    7. จำต้องทนอยู่ท่ามกลางสีที่ไม่ได้ชอบ
     หนึ่งในเรื่องที่ทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวังเกี่ยวกับการทาสีบ้านใหม่ที่พบเห็นได้บ่อย ๆ ก็คือ พบว่าสีทาบ้านสีใหม่ไม่ได้ออกมาดี หรือดูสวยงามอย่างที่คิดเอาไว้เพราะส่วนใหญ่แล้วสีทาบ้านมักจะอ่อนลงหลังจากที่ทาลงไปบนผนัง แต่อย่างไรก็ตามปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการทาสีใหม่ที่เข้มหรืออ่อนกว่าสีเดิมประมาณ 1 เฉด ก็จะทำให้ได้สีทาบ้านที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น



     
      หน้าแรก   |   เกี่ยวกับเรา   | บริการ |   ผลงานที่ผ่านมา ตารางเทียบสี เทคนิคขั้นตอนการทาสี ติดต่อเรา
      MASTER PAINT 2548 CO.,LTD.
    71/5 Moo 13 Bangna - Trad. Bangkaew. Bangplee.Samutprakarn. 10540.
    Tel. 02 762 5855 Fax. 02 739 9981
    Copyright © 2015 MASTER PAINT 2548 CO.,LTD. All Rights Reserved.